ซ่อนกลิ่น




       เป็น ไม้ประดับ นิยมนำดอกมาจัดให้ความสวยงามและความหมอบ จัดเป็น พืชเศรษฐกิจ ชนิดหนึ่ง สำหรับการใช้ ดอกซ่อนกลิ่นในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะนำมา ประดับงานศพ และ ใช้ในการบูชาพระ ต้นซ่อนกลิ่น จึงเป็นต้นไม้ที่มีความผูกพันธ์กับสังคมไทยอย่างลึกซึ้ง การที่ดอกซ่อนกลิ่นนิยมนำมาใช้ในการจัดดอกไม้ในงานศพ แต่ดอกซ่อนกลิ่นจัดเป็น ไม้มงคล

ดอกซ่อนกลิ่น ยังใช้ในการไหว้บูชา ในพิธีกรรมต่างๆ เช่น ชาวประมง ใช้บูชาแม่ย่านางเรือ ก่อนออกเดินเรือ ในประเทศไทย มี การปลูกซ่อนกลิ่น เป็นอาชีพ ในเขตหนองแขม และเขตภาษีเจริญ ของกรุงเทพมหานคร และในต่างจังหวัด อย่างเช่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย และจังหวัดขอนแก่น เป็นต้น

ต้นซ่อนกลิ่น เป็น พืชท้องถิ่นของแถบประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ต้นซ่อนกลิ่น เป็น ไม้ล้มลุก ประเภทใบเลี้ยงเดี่ยว ดอกสีขาว กลิ่นหอม และมีหัวอยู่ใต้ดิน เป็นพืชในตระกลู Amaryllidaceae  สำหรับชื่อสามัญของต้นซ่อนกลิ่น เรียก Tuberose ชื่อวิทยศาสตร์ของต้นซ่อนกลิ่น คือ Poliamtues tuberosa Lin.  ชื่อเรียกอื่นๆ ของต้นซ่อนกลิ่น เช่น ดอกรวงข้าว ดอกลีลา เป็นต้น

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นซ่อนกลิ่น
ต้นซ่อนกลิ่น เป็น พืชล้มลุก ลำต้นเป็นหัว อยู่ใต้ดิน ลักษณะของหัวต้นซ่อนกลิ่น เหมือนหอมหัวใหญ่ ใบของต้นซ่อนกลิ่น เป็นในเลี้ยงเดียว มีสีเขียว ขนาดเล็ก ลักษณะใบเรียวยาว จะโผล่ออกมาจากพื้นดิน ขนาดของใบยาวประมาณ  30 ถึง 45 เซ็นติเมตร ดอกของซ่อนกลิ่น จะออกเป็นกอ ยื่นออกมาตรงกลางลำต้น ดอกเกาะตรงก้านดอกเรียงกันเป็นแนวสวยงาม มีสีขาว ขนาดดอกซ่อนกลิ่นยาวประมาณ 2 เซ็นติเมตร สำหรับช่อดอกจะยาวประมาณ 60 ถึง 65 เซ็นติเมตร ในแต่ละช่อดอก จะมีดอกซ่อนกลิ่นประมาณ 30 ดอก ถึง 90 ดอก ดอกซ่อนกลิ่น จะมีกลิ่นหอมมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน จะให้กลิ่นที่หอมมาก เวลาเก็บดอกซ่อนกลิ่นให้เก็บเวลากลางคืน

ต้นซ่อนกลิ่น เป็น พืชที่มาจากแดนไกล ถิ่นกำเนิดของซ่อนกลิ่น นั้นอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ สามารถพบได้ในแถบเทือกเขาแอนดีส มีการปลูกครั้งแรงในทวีปเอเชียที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยการนำเข้ามาของชาวสเปน จากนั้นชาวจีนมีการค้าขายระหว่างประเทศได้นำเข้ามาประเทศไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่มีบันทึกว่าต้นซ่อนกลิ่นเข้ามาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อใด
เชื่อว่าคนไทยรู้จักดอกซ่อนกลิ่นก่อนสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สันนิษฐานว่า สมัยกรุงศรีอยุธยา ต้นซ่อนกลิ่น นั้นยังไม่มีการปลูกแพร่หลายนั้น เนื่องจากตามวรรณคดีต่างๆในสมัยนั้นไม่มีเรื่องใดกล่าวถึง ดอกซ่อนกลิ่น เลย สำหรับสมัยรัตนโกสินทร์ การปลูกซ่อนกลิ่น ได้รับความนิยมแพร่หลาย พบได้ว่าในวรรณคดีหลายเรื่องและบทเพลงของเด็ก ได้กล่าวถึง ดอกซ่อนกลิ่น อยู่ด้วย ในวรรณคดีของสุนทรภู่ เรียกซ่อนกลิ่นว่า ซ่อนชู้


เครดิตข้อมูล https://beezab.com/
เครดิตคลิปวีดีโอ สูตรอาหาร เกษตรสร้างรายได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น